ชาดี วิวสวย…ไร่ชาฉุยฟง

‘ชา’ เป็นพืชที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน เมื่อ 4,000 กว่าปีมาแล้ว โดยทุกวันนี้ชาถือเป็นพืชสมุนไพรที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เนื่องจากชามีสรรพคุณเหลือล้น เป็นต้นว่า ใบชาถ้าเอาไปต้มเคี่ยวเอาน้ำ เพื่อกินจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเกิดความกระชุ่มกระชวย ไม่ง่วงนอน ทำให้หายเหนื่อยและช่วยแก้อาการปวดศีรษะหน้ามืดตามัว ช่วยบำรุงหัวใจ แล้วใบชายังช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด มีฤทธิ์เป็นยาฝาดสมานใช้รักษาอาการท้องร่วง ใช้เป็นยาแก้บิด ช่วยย่อยอาหาร ช่วยขับปัสสาวะ เมื่อนำใบชาไปนึ่ง แล้วหมักกับเกลือ ทำเป็นก้อนคำๆ จะใช้อม ทำให้ชุ่มคอ แก้อาการกระหายน้ำ แก้อาการร้อนใน ช่วยรักษาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย รากชามีสรรพคุณในการช่วยกระตุ้นให้หัวใจบีบตัวแรง แก้โรคหัวใจบวมน้ำ ช่วยแก้โรคตับอักเสบ ช่วยต้นเชื้อแก้ปากเป็นแผล ส่วนกิ่งชามีสรรพคุณใช้เป็นยาสมานแผล เห็นหรือยังว่า ชาช่างนานาคุณประโยชน์จริงๆ
ในประเทศไทยมีการปลูกชาอยู่มากในเขตภาคเหนือตอนบน ไร่ชาที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายได้แก่ ‘ไร่ชาฉุยฟง’ ซึ่งมีอยู่ 2 แห่งด้วยกันคือ ที่อำเภอแม่ฟ้าหลวงและอำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ไร่ชาที่ฉันเคยไปเที่ยวในช่วงปลายฤดูฝนปีก่อนอยู่ที่อำเภอแม่จัน เป็นไร่ชาที่ค่อนข้างเก่าแก่มีเนื้อที่กว่า 500 ไร่ ตั้งอยู่บนภูเขาสูงกว่า 1,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล บนเนินสูงที่นั่นเต็มไปด้วยต้นชา โดยเป็นการปลูกแบบโค้งวนไปตามไหล่าเขามองดูเหมือนขั้นบันได เมื่อเข้าไปถึงไร่ชาก็จะเห็นภาพต้นชาสุดลูกหูลูกตาเขียวขจีชวนสดชื่นมากๆ ทั้งๆ ที่ช่วงเวลาที่ฉันไปเที่ยวไร่ชาฉุยฟงเป็นเวลาบ่ายสองโมง ซึ่งโชคดีที่ฝนไม่ตกและแสงแดดค่อนข้างจัด แต่กลับปรากฏว่า ฉันไม่ได้รู้สึกร้อนมากเลย คงจะเป็นเพราะสถานที่เป็นที่โล่งกว้างอยู่บนเนิน ทำให้มีลมพัดผ่านตลอดเวลา แล้วสีเขียวของต้นชาก็ช่วยให้รู้สึกเย็นสบาย
ฉันเริ่มสำรวจสถานที่ที่เพิ่งจะไปถึงด้วยการขับรถไปตามทางและไต่ขึ้นเนินในความเร็วพอประมาณจนขึ้นไปถึงจุดพักรถ ซึ่งเป็นลานกว้างและเป็นแลนด์มาร์คของที่นี่ เพราะมีการจัดให้เป็นจุดสันทนาการต่างๆ ทั้งชมวิว ถ่ายรูป และเดินเล่น โดยตรงบริเวณนี้จะมองเห็นวิวแบบพาโนรามาคือ เห็นภูเขาหลายๆ ลูกกับไร่ชากว้างใหญ่ มันทำให้หัวใจพองโต ความรู้สึกอิ่มเอิบ และสูดลมหายใจได้เต็มปอดจริงๆ
นอกจากจะมีจุดขายของความสวยงามตามธรรมชาติแล้ว ไร่ชาฉุยฟงยังมีจุดบริการนักท่องเที่ยวที่ เรียกว่า ฉุยฟง ที คาเฟ่ (Choui Fong Tea-Café) ซึ่งทำตัวอาคารเป็นแบบโอเพ่นแอร์ (Opened Air) และมีห้องแอร์ด้วย ตามแต่นักท่องเที่ยวจะเลือกใช้ ที่นี่จะมีบริการอาหาร เครื่องดื่ม เบเกอรี ไอศกรีมและผลิตภัณฑ์ชาต่างๆ อาทิ ชาอูหลงจินเซียน ชาอูหลงก้านอ่อน ชาอูหลงหมื่นลี้ (คือ ชาอูหลงจินเซียนผสมดอกหอมหมื่นลี้) ชาเขียว ชาเขียวมะลิ (คือ ชาเขียวผสมดอกมะลิแห้ง) ผงชาเขียว (คือสารสกัดของชาเชียว) แล้วก็ยังมีของที่ระลึกไว้ให้นักท่องเที่ยวเลือกซื้ออีกด้วย สำหรับฉันก็ได้ลิ้มลองเครื่องดื่มยอดฮิตของที่นี่ นั่นก็คือ เครื่องดื่มชาเขียว เค้กชาเขียวรสนุ่ม และ ไอศกรีมชาเขียว ไหนๆ ก็ได้มาเยือนถิ่นชาแล้ว จัดให้หนำใจ เท่านี้ยังไม่พอได้หอบหิ้วชาอูหลงกลับบ้านและเอาไปฝากเพื่อนอีกสองสามกระป๋องด้วย
การเดินทางไปไร่ชาฉุยฟงไม่ได้ลำบากยากเย็น ถ้าไปด้วยรถยนต์ส่วนตัวจากเชียงใหม่ให้เดินเส้นอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ผ่านอำเภอเวียงป่าเป้า จากนั้นก็ตรงไปที่อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เมื่อมาถึงเขตอำเภอแม่จัน ให้ตรงไปแยกป่าซาง ทางจะไปดอยตุง แม่สลอง จากนั้นก็เลี้ยวเข้าไปและขับตรงไปเรื่อยๆ จะมีป้ายบอกตลอดจนถึงไร่ชา
หลายๆ คนอาจจะคิดว่า การท่องเที่ยวในหน้าฝนของฉันไม่น่าจะสะดวกสบาย ไปทางไหนก็ล้วนเฉอะแฉะ มันไม่ผิดหรอกนะ หากจะคิดแบบนั้น เพราะหน้าฝน มันเป็นช่วงเวลาที่เปียกชื้นไปทั่วทั้งประเทศ แต่อย่าลืมว่า หน้าฝนเป็นช่วงที่ต้นไม้ใบไม้เขียวชอุ่มพุ่มไสว ซึ่งมันให้ความสบายตาสบายใจและสบายปอดมากทีเดียวเหมือนที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเคยได้ออกโปรแกรมส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงหน้าฝนว่า ‘โปรแกรมกรีนซีซั่น’ ซึ่งในคำที่ใช้โปรโมทก็บ่งบอกแล้วว่า มันเป็นฤดูแห่งการเขียวขจี ฉะนั้นความเขียวขจี มันย่อมดีไม่ใช่เหรอ เพราะอะไรดีๆ อะไรเขียวๆ ก็นำพาความสุขความสบายทั้งนั้น เช่นการท่องเที่ยวหน้าฝนที่ไร่ชาของฉันไง ทำให้ฉันประทับใจไม่รู้ลืมและจะมีครั้งต่อไปอีกแน่นอน เพราะไร่ชาในเขตภาคเหนือตอนบนยังมีอีกหลายที่หลายแห่งรอให้ฉันไปเยี่ยมไปยลบนดอยสูง ซึ่งฉันได้ยินมาว่า ที่ดอยแม่สลองก็มีไร่ชาอยู่หลายแห่งเหมือนกัน พอรู้ก็เกิดความอยาก ความอยากมันช่างตั้งเค้าเหมือนฝนที่รอการตกกระหน่ำจริงๆ แล้วจะรอช้าอยู่ไย เร่งหาข้อมูลให้แน่ เตรียมกระเป๋าเงินให้ตุง วางแผนกับนัดแนะผู้ที่ต้องการจะร่วมทริป เมื่อทุกอย่างพร้อมเป้าหมายต่อไป..ไร่ชาแห่งหนึ่งบนดอยนั่นไง